Subscribe:

Pages

Wednesday, January 11, 2012

ลมพิษในเด็ก สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อเลี้ยงเด็กในบ้าน

สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่น่ารัก วันนี้ผมอยากเล่าถึงเรื่องการเกิดลมพิษในเด็ก เพราะบังเอิญน้องกู๊ดเป็นลมพิษพอดี ซึ่งตอนนี้อากาศค่อนข้างแย่ ( ผมเองก็แอบไอเยอะม๊าก T_T)  วันนี้คงพาไปหาหมอและรอดูการรักษาอีกทีนึง เพราะเคยไปหาหมอแล้วหมอให้สเตรียลอยด์มาทาแล้ว ซึ่งตอนแรกบอกว่า 5วันน่าจะหาย แต่ตอนนี้ก็หายไปแล้วก็กลับมาอีกครั้ง เป็นที่แก้มก้นค่อนข้างใหญ่ (คุณแม่แจ้งมา )
project จะลองเปลี่ยนจากNeocate เป็น นมถั่วเหลืองคงเลื่อนออกไปก่อน พอดีวันนี้ผมลอง search
ข้อมูลเกี่ยวกับภูมิแพ้ในเด็ก  ลองติดตามชมดูนะครับ เป็นประโยชน์มากสำหรับคนที่เลี้ยงลูกอ่อนครับ

ภูมิแพ้ในเด็ก


     คุณพ่อ คุณแม่มักจะรู้สึกว่าลูกมีอาการป่วยบ่อยๆ เช่น คัดจมูก น้ำมูกไหล ปวดท้อง อาเจียนบ่อยๆ หรือ งอแงกวนบ่อยๆ ว่าเป็นจากการที่ลูกเป็นเด็กไม่แข็งแรง หรือ เป็นเด็กเลี้ยงยาก


     ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว อาการเหล่านี้ก็มักจะเกิดจากการติดเชื้อ โดยเฉพาะไวรัสหลายชนิดที่จะมาเยี่ยมเยียนอยู่เสมอๆ ตามฤดูกาลที่เปลี่ยนไป แต่ก็มีบางส่วนที่อาจจะเกิดจากปัญหาภูมิแพ้ แม้ว่าปัญหาภูมิแพ้บางโรคจะมีส่วนจากกรรมพันธุ์ร่วมด้วยอย่างมาก เช่น กรณีที่คุณพ่อ คุณแม่ มีปัญหาหอบหืด ซึ่ง เป็นโรคที่เกี่ยวพันกับการแพ้ชนิดหนึ่ง ลูกก็จะมีโอกาสเกิดโรคหอบหืดได้มากกว่าครอบครัวที่ไม่มีประวัติหอบหืด แต่การแพ้สารบางอย่างที่เฉพาะเจาะจงนั้นไม่ได้มีการถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ เช่น ถ้า คุณแม่แพ้ยาเพนนิซิลิน ไม่ได้หมายความว่าลูกของคุณจะต้องแพ้ยาเพนนิซิลินไปด้วย แต่ลูกอาจจะมีปัญหาภูมิแพ้แบบ ทั่วๆไปอื่นๆ เช่น แพ้อากาศ แพ้ไรฝุ่นได้


     การแพ้นมวัว
     เมื่อลูกเกิดปัญหาภูมิแพ้ต่อสารบางอย่างขึ้น เช่น การแพ้นมวัว ซึ่งเป็นการแพ้สารโปรตีนพิเศษบางอย่างในนมวัว  เมื่อลูกทานนมวัว และ มีการย่อยสลายโปรตีนนมวัว เพื่อการดูดซึมเข้าสู่ร่างกายระบบภูมิคุ้มกันของ ลูกซึ่งมีปัญหาการแพ้นมวัวนี้ ก็จะมีปฏิกิริยาตอบสนองที่ผิดไปจากปกติกล่าวคือ แทนที่จะนำสารโปรตีนที่ได้จากการย่อยนมวัว ไปใช้ในการเสริมสร้างร่างกาย ระบบภูมิคุ้มกันที่มีปฏิกิริยาผิดปกติไปนี้ กลับสร้างภูมิคุ้มกันต่อโปรตีนนมวัวขึ้นอย่างมาก และเกิดปฏิกิริยาต่อต้านสารโปรตีนจากนมวัวขึ้นในร่างกาย ทำให้เกิดอาการบวม และอักเสบขึ้นตามส่วนต่างๆของร่างกายได้ เช่น เกิดผื่นแพ้ของผิวหนังผื่นลมพิษน้ำมูก คัดจมูก หอบหืด หรือ มีปัญหาท้องอืด ท้องเสีย ถ่ายมีมูก ปนเลือด ฯลฯ แล้วแต่ความรุนแรงของการแพ้ที่เกิดขึ้น ซึ่งเมื่อ ทารกได้รับประทานนมวัวต่อไปอีกเรื่อยๆ ก็จะยิ่งทำให้ปฏิกิริยาแพ้นมวัวนี้ ยิ่งเป็นมากขึ้น แม้ว่าคุณได้หยุดการให้นมวัวไปแล้ว สักพักโดยการเปลี่ยนนม ไปเป็นนมถั่วเหลือง (Soy milk) หรือ นมวัวชนิดพิเศษ ที่ทำให้มีคุณสมบัติในการก่อให้เกิดการแพ้น้อย (Hypoallergenic, HA) แล้ว เห็นว่าอาการดีขึ้นจึงเริ่มเปลี่ยนกลับไปใช้นมวัวเหมือนเดิม ปฎิกริยาแพ้นมวัว ซึ่งยังคงอยู่ในร่างกายของลูก ก็จะกลับมาทำให้อาการแพ้นมวัว เช่น ผื่น ท้องอืด ฯลฯ กลับมาได้อีก


     จึงควรทำตามที่แพทย์แนะนำให้ทานนมพิเศษสำหรับเด็กที่แพ้นมวัว เช่น นมถั่วเหลือง หรือ นม Hypoallergenic, HA, หรือนมสูตรพิเศษอื่นๆ ซึงแพทย์ที่ดูแลจะช่วยแนะนำเกี่ยวกับนมพิเศษต่างๆเหล่านี้ให้เหมาะสมกับปัญหาที่ลูกเป็นอยู่ และแนะนำให้ทานไปตลอด (ส่วนใหญ่จะนานเป็นปี) จนกว่าระบบภูมิคุ้มกันเรื่องการแพ้นมวัวนี้ลดน้อยลง ก็อาจจะกลับมาลองทานนมวัวได้ในภายหลัง


     ลูกเป็นหวัด หรือ ภูมิแพ้ กันแน่
     บางครั้งการจะพยายาม แยกให้ได้ชัดเจนว่า อาการป่วยที่ลูกกำลัง เป็นอยู่นี้ เป็นจากการ ติดเชื้อหวัด หรือ เป็นจาก ภูมิแพ้กันแน่นั้น ไม่ง่าย เพราะ อาการของ ทั้งสองโรคนี้ใกล้เคียง กันมาก แต่ ในรายละเอียดของโรคทั้งสองนี้ อาจมีความแตกต่างกันได้บ้าง ดังนี้



  • ระบบทางเดินหายใจส่วนบน
    
การติดเชื้อหวัด :
อาการหวัด น้ำมูก ที่ลูกเป็นอยู่นั้น มีน้ำมูกข้น (อาจมีสีเหลือง หรือเขียว ด้วย) และอาการมักจะดีขึ้น ภายใน 1-2 สัปดาห์

 ภูมิแพ้ :
ภูมิแพ้อากาศ ส่วนใหญ่จะมีอาการ คัดจมูกบ้าง จาม หรือมี น้ำมูก ใสๆ อยู่เรื่อยๆ


          ในบางกรณีที่ อาการแพ้เป็นค่อนข้างรุนแรง ที่เรียกว่า เป็น การแพ้แบบอนาไฟแลกซิส (Anaphylaxis) ที่อาจทำให้ผู้นั้น เกิดอาการช็อค ชีพจร เบาเร็ว และความดันโลหิตต่ำ หรือ แบบที่มีการบวมอย่างเฉียบพลันของบริเวณใบหน้า รอบริมฝีปาก และในคอที่เรียกว่า แองจิโอ-เอ็ดดีม่า (Angioedema) อาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ลักษณะการแพ้แบบรุนแรง นี้ มักเกิดจากการแพ้ยาเพนนิซิลิน แพ้อาหารทะเล หรือ แพ้ถั่วลิสง ฯลฯ จึงควรรีบนำผู้ป่วยไปพบแพทย์ที่คลินิก หรือโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด


  • ระบบทาง เดินหายใจส่วนล่าง
    

      หลายต่อหลายครั้ง ที่ลูกอาจมีอาการ หวัด และ ไอ ค่อนข้างมาก และ อาจมีอาการหอบด้วย ( มีเสียง วี๊ดๆ, wheezing ) ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อไวรัสหลายชนิด ได้ เช่น เชื้อไวรัส ไข้หวัดใหญ่ (Influenza), เชื้อไวรัส อาร์เอสวี (RSV) และ เชื้อไวรัสพาราอินฟลูเอนซ่า (Parainfluenza) ซึ่งเชื้อเหล่านี้มีหลากหลายสายพันธุ์ ทำให้บางครั้งจะดูเหมือนลูกมีอาการหอบได้บ่อยๆ แต่ก็มีหลายเปอร์เซนต์ (ประมาณ 15%) ที่ อาการหอบจะเกิดจากปัญหาภูมิแพ้ และมีโอกาสเป็นซ้ำบ่อยๆ จนกลายเป็นโรคหอบหืดในที่สุด ซึ่งในเด็กเหล่านี้ในตอนเล็กๆ จะมีโอกาสติดเชื้อไข้หวัดต่างๆได้ง่ายและ มีอาการไอ หอบอยู่นานๆ หายได้ยาก


     ในบางรายอาจมีอันตรายจากการที่หลอดลม เกิดการบวม และหดตัวอย่างมาก อีกทั้งมีเสมหะเยอะมาก ทำให้หลอดลมตีบมากจนแทบจะไม่มีอากาศผ่านเข้าสู่ปอดได้ เกิดการหายใจล้มเหลวได้ ซึ่งคุณพ่อ คุณแม่ จะ สังเกตดูได้จากการดูอัตราการหายใจที่ค่อนข้างเร็ว ( เช่น มากกว่า 30-40 ครั้ง ต่อ นาที) หรือมีลักษณะ ซี่โครงบาน จมูกบาน อกบุ๋ม ทานนม ไม่ค่อยได้ ดูกระสับกระส่าย ถ้าลูกมีอาการเหล่านี้ ควรรีบพาลูกไป พบแพทย์โดยเร็วที่สุด


  • เรื่องของตา
    

      อาการตาแดงนั้นอาจเกิดได้ จากการติดเชื้อหรือ จากการแพ้ ถ้ามีขี้ตาค่อนข้างมากโดยเฉพาะตอนเช้า ที่มีขี้ตาเหลืองๆ (ตาแฉะ) มักจะ เกิดจากการติดเชื้อ แต่ถ้ามีอาการ ตาแดง คันตาบ่อยๆ (ขยี้ตาบ่อยๆ) มีน้ำตาเยอะ หรือ มีขี้ตาเพียงเล็กน้อยมักเป็นจากภูมิแพ้ เช่น แพ้ฝุ่น แพ้ ละออง เกสร ฯลฯ ได้

      ผื่นผิวหนัง
     ผื่นในเด็กทารกนั้นพบได้บ่อยเนื่องจากผิวหนังของเด็กนั้น ไวต่อการเกิดปฏิกิริยาต่อ สภาวะแวดล้อมต่างๆ เช่น ผื่นกลากน้ำนม, ผื่นจุดแดงๆ เล็กๆ ตามตัว ซึ่งไม่ได้เกิดจากปัญหา ภูมิแพ้แต่ผื่นเหล่านี้ ก็มักจะค่อยๆ หายไปเองเมื่อลูกอายุมากขึ้นเกิน 2-3 เดือน ขึ้นไป ซึ่งในช่วงเวลา ดังกล่าว ผื่นอื่นๆ ที่ เกิดจากปัญหาภูมิแพ้ ก็จะเริ่มเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น ที่พบบ่อย คือ ผื่นเอ็กซีม่า (eczema) หรือ ที่ เรียกกันอีก ชื่อหนึ่งว่า อะโทปิก-เดอมา-ไททิส (atopic dermatitis) ซึ่ง อาจเกิดจากการแพ้สารอาหาร เช่น นมวัว นมถั่วเหลือง อาหารทะเล ธัญพืชบางอย่าง ถั่วลิสง ฯลฯ ผื่นแพ้ แบบนี้ จะ เป็นผื่นหนาๆ แดง คัน มักเป็นตามแก้ม ข้อพับของแขน และขา ซอกคอ ในรายที่เป็นมากบางครั้งจะมีการ เห่อ แดง มีน้ำเหลือง ซึมๆ ออกมาด้วย ผิวส่วนอื่นๆ จะค่อนข้างแห้ง และสากๆ



     ผื่นแพ้ที่เกิดจากการสัมผัส (contact dermatitis) มักจะ เกิดจากการสัมผัสกับสิ่งที่แพ้โดยตรง เช่น สบู่ น้ำหอม แป้ง หรือ ครีมทาตัว ยาง ต้นไม้ ฝุ่นปูน จากการก่อสร้าง จะมี ลักษณะเป็น แบบผื่นเอ็กซีม่าได้ เช่นกัน แต่อาจดูว่าเป็นมาก ตรงเฉพาะบริเวณผิวหนังที่ สัมผัสกับสิ่งแพ้ และมักไม่เป็นมากจนกระจายไปทั่วตัว


     ผื่นแพ้แบบลมพิษ(urticaria) ก็พบได้ เช่นกัน มักจะมีอาการคันมากร่วมด้วย ในเด็กเล็ก ผื่นลมพิษ อาจจะดูเป็นเม็ดเล็กๆไม่เป็น ปื้นใหญ่ แบบในเด็กโตก็ได้


  • ระบบทางเดินอาหาร
    

      แม้ว่าอาการปวดท้องอาเจียนในเด็ก ส่วนใหญ่จะเกิดจากการติดเชื้อของระบบทางเดินอาหารจากเชื้อแบคทีเรีย-อาหารเป็นพิษ หรือ จากไวรัส เช่น ไวรัสลงกระเพาะ แต่อาการอาเจียน ปวดท้องที่เกิดจากการแพ้ก็สามารถพบได้ในเด็กเช่นกัน โดยเฉพาะการแพ้อาหาร เช่น การแพ้ นมวัว และ แม้แต่ปัญหาภูมิแพ้ ของระบบทาง เดินหายใจบางครั้ง ก็ทำให้เด็กมีอาเจียนเป็นเสลด เหนียวๆ ได้เช่นกัน


  • พฤติกรรม
    

      ในเด็กที่มีปัญหาภูมิแพ้ อาจทำให้เกิดการคัน แน่นจมูก หายใจไม่สะดวก หรือบางครั้งปวดท้อง ทำให้เด็กมีลักษณะเป็นเด็กที่งอแง หงุดหงิด กวนบ่อยกลายเป็นเด็กเลี้ยงยาก จนทำให้คุณพ่อ คุณแม่เครียดขึ้นได้


     นอกจากนี้ช่วงเวลาของการ เจ็บป่วยบ่อยๆ ก็อาจจะช่วยแยกได้บ้าง คือ ในช่วงหน้าฝน และหน้าหนาว ซึ่งจะมีเชื้อไวรัสหวัดหลายชนิด แพร่กระจายในชุมชน ก็ทำให้เด็กป่วยได้ค่อนข้างบ่อย แต่พอเข้าหน้าร้อนโรงเรียนปิดเทอม ไม่ค่อยมีการระบาดของเชื้อที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เด็กก็จะไม่ค่อยป่วย


     ในขณะที่เรื่องของภูมิแพ้ เช่น การแพ้ไรฝุ่น หรือแพ้ฝุ่นในห้องนั้น มักจะมีอาการเป็นไปเรื่อยๆตลอดปี หรือ ในรายที่แพ้ละอองเกสรดอกไม้ หรือ เกสรหญ้า ก็จะมีอาการมากในช่วงที่มีดอกไม้หรือ หญ้างาม คือ ฤดูใบไม้ผลิ และหน้าฝน ได้ เช่นกัน สำหรับการแพ้สารอาหารนั้นมักจะเกิดอาการขึ้นภายในระยะเวลาไม่นาน ( ไม่กี่นาที หรือ ไม่กี่ ชั่วโมง หลังได้รับประทานอาหารที่แพ้เข้าไป )



เมื่อลูกเป็นโรคภูมิแพ้จะมีการรักษาอย่างไร?
     สำหรับผื่นแพ้ทางผิวหนังที่เกิดขึ้นมักจะมีความคันและผิวแห้งแตก ซึ่งมีแนวทางการรักษาตามอาการ ดังนี้


  • ใช้ครีมบำรุงผิวชนิดที่เตรียมสำหรับผิวที่เกิดการแพ้ได้ง่ายทาตามตัว เพื่อรักษาความชุ่มชื้นของผิวหนังในรายที่ผื่นแพ้ ค่อนข้างมาก แพทย์อาจพิจารณาใช้ครีม ที่มีส่วนผสม ของสเตอรอยด์ที่เหมาะสม กับผิวที่มีปัญหานั้นๆ ให้ทาเพื่อ ควบคุมอาการแพ้ไม่ให้ลุกลาม ซึ่งครีมยาเหล่านี้ ควรใช้ ตาม คำแนะนำของแพทย์เท่านั้น
  • ทานยาแอนติฮีสตามีน หรือ ที่เรียกกันว่า ยาแก้แพ้ ซึ่งจะมีผลในการลดอาการคันได้เป็นอย่างดี แต่อาจมีผลทำให้เด็กง่วงได้บ้าง
  • พยายามลดการสัมผัสกับ สารก่อแพ้ ลงให้มากที่สุด เช่น ถ้าลูกแพ้ขนแมว ก็ควรจะ เลิกเลี้ยงแมว เปลี่ยนเป็นสัตว์เลี้ยงอย่างอื่นแทน หรือ แพ้ไรฝุ่น และฝุ่นมาก แต่ทั้งบ้านเป็นพรม ถ้าไม่ได้แก้ไข เรื่องพรมในบ้าน ก็จะทำให้อาการแพ้ฝุ่นไม่ค่อยจะดีขึ้น แม้ว่าจะทำการรักษาอย่างเต็มที่ ถ้าสามารถหยุดการสัมผัสกับสารที่แพ้ได้ ยิ่งนานเท่าไร ( อย่างน้อย 6 เดือนขึ้นไป ) ก็มีโอกาสที่ระบบภูมิแพ้ของลูกอาจจะดีขึ้นจนไม่เกิดปฏิกิริยาอีก เมื่อกลับมาสัมผัสสารนั้นๆ เช่น ในรายที่แพ้นมวัว หรือ สารอาหารบางชนิด แต่ก็ไม่ได้เป็นอย่างนี้ทุกราย ( ต้องดูเป็นรายๆ ไป )
  • การทำการตรวจภูมิแพ้ (Allergy testing) ในเด็กเล็กนั้น ในบางกรณี อาจจะได้ผลไม่ชัดเจนและแปลผลยาก เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันของเด็ก ยังทำงานไม่สมบูรณ์เต็มที่ ดังนั้นคุณจึงควรเลือกที่จะลดการสัมผัสกับสารก่อแพ้ให้มากที่สุดจะดีกว่า



จะมีทางป้องกันโรคภูมิแพ้ได้อย่างไรบ้าง ?
     ถ้าครอบครัวของคุณมีปัญหาภูมิแพ้คุณควรจะดูแลตนเองในระหว่างการตั้งครรภ์ตั้งแต่แรก โดยการเลี่ยงสารก่อแพ้ต่างๆ ดังนี้


  1. หลีกเลี่ยงการทานอาหารที่ทำให้ แพ้ได้ง่ายๆ เช่น ถั่วลิสง ( รวมถึง เนยถั่วลิสง, คุ๊กกี้ถั่ว, ไอสครีมถั่ว) หรือ อาหารทะเลปริมาณมากๆ
  2. พยายามให้นมแม่อย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือน ( ถ้าทำได้ ) ในช่วงการเลี้ยงนมแม่นั้น คุณเองก็ควรหลีกเลี่ยงไม่ทาน ไข่ นมวัว ถั่ว และอาหารทะเล
  3. ถ้าคุณแม่ไม่สามารถให้นมแม่ได้ เนื่องจากมีน้ำนมไม่พอ หรือ ไม่สามารถทำได้ จากสาเหตุต่างๆ ก็ควรพิจารณาใช้นมที่มีคุณสมบัติพิเศษที่ทำ ให้เกิดการแพ้น้อย (Hypoallergenic) เพื่อลดโอกาส เกิด ปัญหาการแพ้ ให้ลด น้อยลง
  4. ไม่ควรให้มีการสูบบุหรี่ในบ้าน
  5. ไม่ใช้พรม ในห้องนอน ( หรือ ทั้งบ้าน )
  6. ใช้ ที่นอนและ เครื่องนอนที่ป้องกันไรฝุ่น
  7. รักษาความสะอาดในบ้านให้สม่ำเสมอ พยายามให้มีฝุ่น เชื้อรา และ สารก่อแพ้ ให้น้อยที่สุด
  8. ไม่ควรมีสัตว์เลี้ยงในบ้าน ( เช่น แมว, หนูแฮมสเตอร์, นกแก้ว, นกหงส์หยก ฯลฯ ) หรือ ปลูกต้นไม้ในห้องนอน ( มีเชื้อรา ในดินได้ )

นพ.ประสงค์ พฤกษานานนท์
คลินิกเด็ก.คอม

1 comments:

sollyseny said...

I am grateful for this blog to distribute knowledge about this significant topic. Here I found different segments and now I am going to use these new instructions with new enthusiasm.อาหาร เด็ก

Post a Comment